ในที่นี้ หมายถึง ใช้พื้นที่ที่ว่างเปล่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นิยามของเกษตรผสมผสานในที่นี้ คือ พืชทุกชนิด แม้แต่หญ้าก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ตามธรรมชาติ ถ้าเราไม่ใช้สารเคมีดูแลรักษา เพราะ พืชบางชนิด อาจไม่ถูกกับสารเคมี
เนื่องจากชาวบ้านระแวงนี้เพาะเห็ดเป็นจำนวนมาก จึงนำขี้เห็ดที่ชาวบ้านไม่ใช้แล้วมาทดลองทำปุ๋ยหมักชีวภาพ
เกษตรผสมผสาน ทำไมต้องปลูกพืชระยะสั้นผสมกับพืชระยะยาว ?
พืชระยะยาว กว่าจะได้ผลผลิต ก็ประมาณ 3-4 ปี เช่น มะพร้าว ขนุน เป็นต้น
พืชระยะสั้นจำพวก ตระกูลแตงกวา ตระกูลถั่ว พวกนี้จะเป็นพืชระยะสั้นสามารถเก็บผลผลิตไปเป็นรายได้ก่อน ในขณะที่รอผลผลิตของพืชระยะยาว จึงปลูกพืชระยะสั้นแซมไปด้วย
1.ขี้เห็ดที่ไม่ใช่แล้ว 2.เศษอาหาร เศษผัก ที่เหลือใช้
3.ยาสูบ 4.มูลวัว 5.แกรบ 6.กากน้ำตา
ขี้เห็ด 500 ก้อน มูลวัว 5 กระสอบ แกรบ 2 ถุงปุ๋ย ใส่น้ำหมักลาดลงไปประมาณ 3 กระป๋อง จากนั้นน้ำน้ำเปล่ามาฉีดให้ชุ่มจนน้ำไหลลงพื้นด้านล่างแล้วจึงหยุดฉีด จากนั้นพักปุ๋ยไว้ประมาณ 7 วัน หลังจาดนั้นใช้จอบ สับๆไปมา และก่อนจะใช้ปุ๋ย ถ้านำมาภาชนะมาตักใส่แล้วมีไอความร้อนเข้าใบหน้าแสดงว่ายังใช้ไม่ได้ แต่ถ้าตักใส่ภาชนะแล้วไม่มีไอความร้อน แสดงว่านำมาใช้ได้เลย
ใส่ดินและใส่เมล็ดลงในหลุม หลุมละ 2-3 เมล็ด จากนั้นดูแลรดน้ำตามปกติ แต่ยังไม่ต้องใส่ปุ๋ยใดๆลงไป ต้นไม้ที่เพาะในถาดหลุมถ้าเป็นต้นอ่อน จะใช้เวลาในการเพาะปลูก 25 วัน แล้วจากนั้นเลือกต้นที่แข็งแรง มาลงดินปลูกได้ เป็นต้น
ก่อนจะปลูกพืชทุกชนิด ต้องมีการปรับหน้าดิน โดยใช้ปุ๋ยหมักฉีดลงไปในดินและทิ้งไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อย่อยสลายซากพืช ซากสัตว์ และเชื้อราต่างๆในดิน และทำให้หญ้าบริเวณนั้น ถอนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
จุลินทรีย์ : ทำไมจึงต้องใช้จุลินทรีย์ในการทำการเกษตร?
จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่เป็นตัวย่อยสลายจำพวกซากพืช ซากสัตว์ เชื้อราต่างๆ ให้เป็นปุ๋ยได้
จุลินทรีย์ก่อนจะนำไปใช้ต้องนำไปแช่น้ำก่อน น้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำที่สะอาดเท่านั้นแช่ไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง และห้ามเกิน 12 ชั่วโมง ถ้าเกินจุลินทรีย์ จะกินกันเอง
พืชที่สามารถ ไล่ศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี คือ ชะอม เพราะ ชะอมมีสรรพคุณมากมาย แถมยังช่วยกำจัดศัตรูพืชได้อีกด้วย ทดลองด้วยการปลูกพริกลาวระหว่าง ร่องชะอม ได้ผลผลิตดีเพราะสัตว์จำพวกเพลี้ยไฟ และแมลงต่างๆจะไม่เข้ามาในโซนจำพวกต้นชะอม